Posted on by Team Girlsnation

เคยเป็นบ้างมั้ยคะสาวๆ มันจะมีวันนึงที่เรารู้สึกโหยหาอะไรหวานๆ อยากกินของหวาน น้ำหวาน ขนมหวานๆ แล้วยิ่งถ้าอยู่ในช่วงลดน้ำหนักละก็ ยิ่งรู้สึกโหยหาเข้าไปใหญ่เลย การลดของหวาน อาจจะทำได้ แต่ถ้าให้อด งดแบบหักดิบไปเลย ก็คงจะยาก ดังนั้นถ้าอยาก อย่าอด ให้กินเลยค่ะ แต่ต้องมีเทคนิดกันนิดนึงนะ เพราะถ้ายิ่งอดนานแค่ไหน ก็ยิ่งทำให้ตบะแตกได้ง่าย และอาจทำให้คุณคลั่งกินของหวานแบบโนสน โนแคร์ ถึงเราจะเป็นตัวแม่ แต่บางทีก็ต้องแคร์บ้าง #Girlsnation ก็เลยขอมาแชร์เทคนิค กินของหวานยังไง ช่วยให้ไม่อ้วนได้ อยากกินของหวาน แต่กลัวอ้วน ต้องใช้วิธีพวกนี้เข้าช่วยเลยจ้า

เริ่มต้นคำนวณปริมาณแคลอรี่ 

เรารู้นะว่าอยากกินของหวาน แต่จะให้เจออะไรก็หยิบกินๆ คงจะไม่ได้ ดังนั้นข้อแรกจึงเป็นข้อที่ดูเบสิก แต่ก็สำคัญเลยล่ะ ถ้าอยากกินของหวาน ไม่ว่าจะขนม หรือน้ำหวานอะไรก็ตาม อย่างน้อยควรอ่านปริมาณแคลอรี่ในขนมเสียก่อน ให้ดูเลยว่าแคลอรี่ที่จะได้รับมีปริมาณเท่าไหร่ ทีนี้เราก็จะได้รู้ว่า ควรเลือกทานของหวานที่มีปริมาณแคลอรี่น้อย หรือไม่ก็จะได้เตรียมตัวในขั้นตอนต่อไปได้ถูก

กินของหวานให้ถูกเวลา

แน่นอนว่าของหวานก็เหมือนกับมื้ออาหาร ถ้าให้กินตอนดึกแล้วนอน น้ำหนักได้ขึ้นแน่ ถ้าอยากกินของหวานแต่กลัวอ้วน ก็ต้องเลือกกินให้ถูกเวลา ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการกินของหวานก็คือ ตอนเช้าถึงบ่ายสอง เพราะว่าช่วงบ่าย จะเป็นช่วงที่ร่างกายของเราเผาผลาญแคลอรี่ได้ดีที่สุด แถมเรายังได้ใช้ร่างกายตลอดเวลา ร่างกายก็จะเอาพลังงานไปใช้ได้ทั้งวัน แต่ก็ยังไงต้องระวังในเรื่องของปริมาณนะ กินเยอะเกินไปก็เอาจะเผาผลาญไม่ทัน ทำให้อ้วนได้อยู่ดี

เลือกทานของหวานแบบ Low-fat 

ท่องไว้เลยว่า ให้เลือกทานเมนูหวานที่เป็นแบบ Low-fat หรือมีส่วนผสมของวัตถุดิบที่มีไขมันต่ำ โดยเฉพาะพวกเมนูเครื่องดื่มต่างๆ ที่สามารถปรับระดับความหวานได้ อย่างพวกโกโก้ หรือชานมไข่มุกก็อย่าลืมสั่งหวานน้อย แล้วก็ตัดวิปครีม ไม่ก็พวกครีมชีสออกไปได้เลย จะได้ไม่รู้สึกผิด และอ้วนไปมากกว่านี้

ดื่มน้ำก่อนทานขนมหวาน 

เป็นหนึ่งเคล็ดลับที่ทำได้ไม่ยากเลย เพราะการที่เราดื่มน้ำเข้าไปก่อน จะช่วยทำให้เราอิ่มได้ส่วนหนึ่ง พอทานพวกขนมหวานก็จะทำให้ทานได้น้อยลงนั่นเอง แถมน้ำเปล่าก็ยังดีต่อสุขภาพ ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งอีกด้วย

ดื่มชาเขียว หรือกาแฟร้อนตามหลังกินของหวาน

หลังจากกินของหวานเสร็จแล้ว เราแนะนำว่าให้กินเป็นชาเขียวร้อน หรือกาแฟร้อน แน่นอนว่าให้เลี่ยงใส่พวกน้ำตาล และครีมทั้งหลาย ใครจะใส่นมก็เลือกแบบ Low-fat เพราะว่าตัวคาเฟอีนจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน ส่วนใครที่อยากได้ความหวานเพิ่ม ก็เลือกใช้เป็นน้ำตาลเทียม ไม่ก็สารให้ความหวานแทนละกัน

 

หาอะไรหวานๆ มาทดแทนของหวาน 

ถ้าใครอยากกินของหวาน แต่ก็แบบไม่อยากกินพวกขนมหวานๆ ลองหาอะไรมาทดแทนดู เช่นความหวานจากผลไม้สด ไม่ก็ผลไม้ตากแห้ง หรือเป็นพวกโยเกิร์ตรสธรรมชาติผสมน้ำผึ้ง หรือจะเป็นถั่วเคลือบน้ำผึ้ง ก็ทั้งอร่อยและมีประโยชน์อีกด้วย

มีชีทเดย์ 1 วัน วันที่เหลือคืองดของหวาน

เราไม่ควรที่จะอดความอยาก หรือหักดิบเกินไป การทำอะไรต้องทำแต่พอดี ค่อยๆ ลด หรือว่าลองให้มีชีทเดย์ สัก 1 วัน เป็นวันที่กินอะไรก็ได้ตามใจ แต่วันถัดมาก็ต้องงดของหวาน รวมถึงแป้งแบบยาวๆ ก็จะช่วยให้โฟกัสได้ว่า จะมีวันนึงที่เราได้กินของหวาน อีกวันเราก็เลี่ยงไป ทำให้เราไม่ได้รู้สึกอยากของหวานจนเกินไป

อดของหวานไม่ได้ ให้กินแล้วเบิร์นออกเลย

สำหรับคนที่อดไม่ได้ อยากกินของหวานทุกวัน งั้นก็ลองสร้างกฎเหล็กขึ้นมาสำหรับตัวเองดูละกัน นั่นก็คือ กินปุ๊ปให้เอาออกปั๊ป กินไปเยอะแค่ไหน ก็ต้องเอาออกให้หมด ช่วงเช้ากินไปเท่านี้ ตอนเย็นก็ลองเพิ่มเวลาออกกำลังกายเพิ่มดู จะช่วยให้เบิร์นแคลอรี่ แถมยังสร้างวินัย สุขภาพ และอารมณ์ของเราให้ดีอีกด้วย 

 

XOXO

Team Girlsnation